หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ประโยชน์จากแครอท

แครอท จะมีลักษณะเป็นหัวยาวๆ สีส้มขึ้นอยู่ใต้ดิน ในประเทศไทยมักนิยมปลูกในภาคเหนือซึ่งมีอากาศเย็น เช่น จังหวัดเชียงใหม่ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก็เก็บมารับประทานได้ หัวแครอทจะอยู่ใต้ผิวดิน เช่นเดียวกับหัวไชเท้า จะมีใบสีเขียวโผล่ขึ้นมา สังเกตว่าถ้าใบมีลักษณะกลมรี นั่นคือ หัวแครอทพร้อมบริโภคได้ สาเหตุที่ตาม ท้องตลาดต้องเด็ดใบที่หัวแครอททิ้ง นั่นเป็นเพราะใบของมันมีการคายน้ำ ซึ่งจะทำให้หัวแครอท ไม่สด อยู่ได้ไม่นานและไม่หอม แครอทที่ดีจะปลูกที่ประเทศออสเตรเลีย จะมีรสชาติหอม หวาน และกรอบ แต่จะมีราคาสูง

แครอท
แครอทอุดมไปด้วยวิตามินเอ และเกลือแร่ วิตามินเอเอาไว้ใช้ ช่วยบำรุงสายตา บำรุงผิวและ เนื้อเยื่อ ช่วยยับยั้งความเสื่อมของ อวัยวะสำคัญของร่างกาย มีความเชื่อว่า แครอทช่วยรักษา โรคมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรค เช่น มะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง อัมพฤษ์ อัมพาต ความดันโลหิตสูง ต้อกระจก และยังช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน เร่งการสร้างเซลล์ในแผลผ่าติด

นอกจากนี้ ยังอุดมด้วยวิตามินบี วิตามินซี และแคลเซียมที่ดูดซึมง่ายมีแพคตินซึ่งเป็นไฟล์เบอร์ ชนิดที่ละลายน้ำได้ ช่วยลดโคเลสเตอรอล วิตามินและเกลือแร่ที่มีอยู่ มีบทบาท สำคัญ ในการสร้างภูมิคุ้มกันโรค

คุณประโยชน์ของแครอทมีมากมาย
- ใบแครอท เชื่อกันว่า มีสรรพคุณในการเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศ และมีสารต้านมะเร็ง ในอเมริกา จะเป็นยาช่วยขับปัสสาวะ บำรุงเลือดให้ไหลเวียนสะดวก และช่วยขับของเสียออกนอกร่างกาย ถ้านำแครอทมาสับให้ละเอียด ผสมกับแป้ง แล้วเคี่ยวไฟให้เหนียว สามารถทารักษาแผลได้

- ผิวสีส้มของแครอท มีสาร เบต้าแคโรตีน (Beta Carotene) ที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็น วิตามิน A ซึ่งช่วยบำรุงสายตา ทำให้มองเห็นชัดในเวลากลางคืน ซึ่งมีประโยชน์ต่อทหารในยามสงคราม และ Anti-Oxidant ซึ่งเป็นสารต้านมะเร็ง

เมนูเด็ดจาก "แครอท”
นอกจากแครอทจะเป็นผักสุขภาพที่มีประโยชน์ต่อร่างกายใช้ประกอบอาหาร เช่น สลัด ยำ ซุป หรือ ตกแต่งจานอาหาร แล้ว ยังสามารถคั้นหรือปั่นเป็นน้ำแครอทสดได้ ปัจจุบันยังนำมาทำเป็นเค็กแครอท ได้อีกด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น